เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดีคำถามยอดฮิตที่หลายคนกำลังมองหาคำตอบในปี 2025 แม้โลกจะกว้างใหญ่ แต่ใกล้บ้านเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเที่ยวจีนที่เต็มเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โปรแกรมเที่ยวญี่ปุ่นที่ผสมผสานความทันสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมโปรแกรมเที่ยวฮ่องกงเมืองที่ไม่เคยหลับใหล และโปรแกรมเที่ยวเวียดนามที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งอินโดจีน วันนี้เราได้รวบรวม 20 สถานที่เที่ยวด้วยตัวเองหรือไปกับทัวร์ที่ไม่ควรพลาดมาฝากกัน
20 สถานที่เที่ยวต่างประเทศที่ไม่ควรพลาด
การเที่ยวต่างประเทศในปี 2025 มีหลากหลายตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียที่มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร และสถาปัตยกรรม ตั้งแต่เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อย่างปักกิ่ง ไปจนถึงเมืองแห่งเทคโนโลยีอย่างโตเกียว แต่ละที่ล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่รอให้เราไปสัมผัส
1. ปักกิ่ง (Beijing)

เมืองหลวงที่เป็นหัวใจของประวัติศาสตร์จีนกว่า 3,000 ปี โดดเด่นด้วยพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ กว่า 9,999 ห้อง แต่ละห้องล้วนมีเรื่องราวน่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีกำแพงเมืองจีน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ทอดยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร จัตุรัสเทียนอันเหมิน จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพระราชวังฤดูร้อน ที่ประทับพักผ่อนของจักรพรรดิและพระราชวงศ์ในอดีต
2. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)

มหานครที่ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว สัญลักษณ์ของเมืองอย่างหอไข่มุก (Oriental Pearl Tower) โดดเด่นในย่านผู่ตง เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองได้ 360 องศา ย่านเดอะบันด์ (The Bund) ที่เรียงรายด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล และสวนอี้หยวน (Yu Garden) สวนจีนโบราณอายุกว่า 400 ปี ที่แสดงถึงความงดงามของศิลปะจีน
3. ซีอาน (Xian)

เมืองหลวงเก่าที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม โดดเด่นด้วยสุสานกองทัพทหารดินเผา มรดกโลกที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี 1974 ประกอบด้วยทหารดินเผากว่า 8,000 ตัว ม้า 130 ตัว และรถศึก 520 คัน นอกจากนี้ ยังมีกำแพงเมืองโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในจีน สามารถปั่นจักรยานรอบกำแพงเพื่อชมวิวเมืองได้ และเจดีย์ห่านป่าใหญ่ ที่เก็บรักษาคัมภีร์พุทธศาสนา
4. เฉิงตู (Chengdu)

เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ขึ้นชื่อเรื่องหมีแพนด้ายักษ์และอาหารเผ็ด ศูนย์วิจัยหมีแพนด้ายักษ์เฉิงตู เป็นสถานที่อนุรักษ์และศึกษาพฤติกรรมของหมีแพนด้า สามารถชมหมีแพนด้าได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีถนนจิ่นหลี่ ถนนโบราณที่จำลองบรรยากาศสมัยราชวงศ์ชิงได้อย่างสมบูรณ์ และวัดเหวินซู วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเฉิงตู
5. จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie National Forest Park)

อุทยานแห่งชาติที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ Avatar โดดเด่นด้วยเสาหินทรายสูงตระหง่านนับพันต้น และเป็นเสาหินที่สูงที่สุดถึง 1,080 เมตร นอกจากนี้ ยังมีสะพานแก้วที่ยาวและสูงที่สุดในโลก ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ และเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี
6. โตเกียว (Tokyo)

เมืองหลวงที่ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ย่านชินจูกุคือหัวใจของความทันสมัย เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิง ขณะที่วัดเซนโซจิในอาซากุสะยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมของญี่ปุ่น โตเกียวสกายทรี หอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มอบวิวพาโนรามาของเมือง ส่วนตลาดปลาซึกิจิใหม่ เป็นแหล่งอาหารทะเลสดและซูชิชั้นเลิศ
7. เกียวโต (Kyoto)

อดีตเมืองหลวงที่รักษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ วัดคินคะคุจิหรือวัดทอง โดดเด่นด้วยอาคารปิดทองที่สะท้อนบนผิวน้ำ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ มีเสาโทริอิสีแดงนับพันต้นทอดยาว ย่านกิออนเต็มไปด้วยเกอิชาในชุดกิโมโนสวยงาม และป่าไผ่อาราชิยาม่าที่สร้างบรรยากาศสงบร่มรื่น
8. โอซาก้า (Osaka)

เมืองแห่งอาหารและความสนุกสนาน ปราสาทโอซาก้าตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ย่านโดทงโบริคือสวรรค์ของนักชิม มีทั้งทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ ย่านชินไซบาชิเป็นถนนช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น และยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเป็นสวนสนุกที่มอบความสุขให้ทุกเพศทุกวัย
9. ฮอกไกโด (Hokkaido)

เกาะเหนือสุดของญี่ปุ่นที่มีธรรมชาติงดงามทุกฤดูกาล ฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซัปโปโรที่จัดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่ ฤดูใบไม้ผลิชมซากุระที่สวนมารุยามะ ฤดูร้อนชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟุราโน่ และฤดูใบไม้ร่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โนโบริเบทสึ
10. วิคตอเรียพีค (Victoria Peak)

จุดชมวิวที่สูงที่สุดของฮ่องกงขึ้นไปด้วยรถรางที่ชันที่สุดในโลก เพื่อชมวิวอ่าววิคตอเรียและตึกระฟ้าที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และจุดถ่ายภาพมากมาย แนะนำให้ไปช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกและแสงไฟยามค่ำคืน
11. อ่าววิคตอเรีย (Victoria Harbour)

หนึ่งในอ่าวธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก ทุกค่ำคืนจะมีการแสดง Symphony of Lights ที่ตึกระฟ้ากว่า 40 แห่งร่วมกันสร้างการแสดงแสงสีเสียงอันตระการตา สามารถชมได้จากฝั่งเกาะฮ่องกงหรือฝั่งเกาลูน หรือล่องเรือในอ่าวเพื่อชมวิวแบบ 360 องศา Avenue of Stars ถนนคนเดินริมอ่าวที่รวบรวมรอยประทับมือของดาราฮ่องกงชื่อดัง
12. วัดโป๋หลินและพระใหญ่เทียนถาน (Po lin Monastery and Tian Tan Buddha Statue)

ตั้งอยู่บนเกาะลันเตา เข้าถึงได้ด้วยกระเช้านองปิง 360 องศา ที่ให้วิวทิวทัศน์ของเกาะและสนามบินนานาชาติ พระใหญ่เทียนถานเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 34 เมตร น้ำหนัก 250 ตัน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 6 องค์ วัดโป๋หลินเป็นวัดพุทธนิกายมหายานที่สำคัญ มีสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่งดงาม
13. ย่านมงก๊ก (Mong Kok)

ย่านช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดในฮ่องกง เต็มไปด้วยตลาดกลางแจ้งที่มีเอกลักษณ์ เช่น Ladies’ Market ที่ขายเสื้อผ้าและของที่ระลึก Sneaker Street ถนนสายรองเท้า Flower Market ตลาดดอกไม้สดและต้นไม้ และ Goldfish Market ตลาดปลาสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารข้างทางที่เปิดถึงดึก
14. ฮาลองเบย์ (Ha Long Bay)

มรดกโลกทางธรรมชาติที่มีเกาะหินปูนกว่า 1,600 เกาะ โผล่พ้นน้ำทะเลสีเขียวมรกต การล่องเรือสำราญค้างคืนคือวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสความงามของอ่าว สามารถพายเรือคายัค เข้าถ้ำ ดำน้ำดูปะการัง หรือนั่งชมพระอาทิตย์ตกบนดาดฟ้าเรือ บางเกาะมีหาดทรายขาวและถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงาม
15. ฮอยอัน (Hoi An)

เมืองมรดกโลกที่รักษาสถาปัตยกรรมโบราณได้อย่างสมบูรณ์ ถนนแคบ ๆ ในเขตเมืองเก่าประดับด้วยโคมไฟสีสันสวยงาม สะพานญี่ปุ่นอายุกว่า 400 ปี เป็นสัญลักษณ์ของเมือง บ้านโบราณหลายหลังเปิดให้เข้าชม และยังมีร้านตัดเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียง รวมถึงชายหาดอันมีและหมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาในบริเวณใกล้เคียง
16. ดานัง (Da Nang)

เมืองชายทะเลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วของเวียดนามกลาง โดดเด่นด้วยสะพานมังกร (Dragon Bridge) ที่พ่นไฟและน้ำในช่วงสุดสัปดาห์ หาดมีเคที่ทอดยาวกว่า 30 กิโลเมตร บานาฮิลล์ สวนสนุกบนยอดเขาที่เข้าถึงด้วยกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก มีสะพานทองที่โด่งดังและสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม ที่รวบรวมงานศิลปะโบราณของอาณาจักรจามปา
17. ซาปา (Sapa)

เมืองบนภูเขาที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีนาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุดในเวียดนาม เหมาะสำหรับการเดินป่าและสัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ เช่น ม้ง และเย้า ยอดเขาฟานซีปัน จุดสูงสุดของอินโดจีน สามารถขึ้นไปชมวิวด้วยกระเช้าและรถรางไฟฟ้า ตลาดซาปาเป็นแหล่งช้อปปิ้งผ้าทอมือและงานหัตถกรรมพื้นเมือง
18. โฮจิมินห์ซิตี้ (Ho Chi Minh City)

อดีตไซ่ง่อนที่ผสมผสานความทันสมัยกับมนต์เสน่ห์แบบอาณานิคมฝรั่งเศส ที่ทำการไปรษณีย์กลางและโบสถ์นอทเทรอดามเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สวยงาม อุโมงค์กู๋จีแสดงให้เห็นประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม พิพิธภัณฑ์สงครามบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและอาวุธยุทโธปกรณ์ ตลาดเบนถั่นเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคักที่สุดของเมือง
19. ฮานอย (Hanoi)

เมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี จุดเด่นอยู่ที่ทะเลสาบคืนดาบใจกลางเมือง ที่มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับดาบวิเศษและเต่ายักษ์ สะพานเทฮุกสีแดงสดเชื่อมไปยังวัดหง็อกเซิน วัดเก่าแก่บนเกาะเล็ก ๆ ย่านเมืองเก่า 36 สายมีถนนแคบ ๆ ที่แต่ละสายขายสินค้าเฉพาะอย่าง วิหารวรรณกรรมคือมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม และสุสานโฮจิมินห์ที่เก็บร่างของประธานาธิบดีโฮจิมินห์
20. ฟูก๊วก (Phu Quoc)

เกาะที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ตั้งอยู่ในอ่าวไทย มีชายหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดลองบีชเป็นชายหาดที่ยาวและสวยที่สุด เหมาะสำหรับการเล่นน้ำและดูพระอาทิตย์ตก นั่งกระเช้าสู่ Sun World Hon Thom Nature Park สวนน้ำและสวนสนุกที่ทันสมัย ตลาดกลางคืนดินห์เกาเป็นแหล่งอาหารทะเลสดและของฝากขึ้นชื่อ โดยเฉพาะน้ำปลาและพริกไทยดำ นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตไข่มุกให้เยี่ยมชมและเลือกซื้อเครื่องประดับไข่มุกคุณภาพดี
สรุปบทความ

20 สถานที่เที่ยวต่างประเทศที่ไหนดีที่เรานำเสนอนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ในภูมิภาคเอเชีย แต่ละที่ล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของจีน ความผสมผสานระหว่างเก่าและใหม่ของญี่ปุ่น ความคึกคักของฮ่องกง หรือวัฒนธรรมที่หลากหลายของเวียดนาม การเที่ยวต่างประเทศจึงเป็นการเปิดประสบการณ์และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่จะอยู่ในความทรงจำไปตลอดกาล โดย Khobfah Travel เรามีทัวร์จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และเวียดนาม หลากหลายเส้นทางพร้อมให้บริการ
Khobfah Travel
- ใบอนุญาตนำเที่ยว เลขที่ 31/01065
- www.khobfahtravel.com
- E-mail : info@khobfahtravel.com
- Line ID : @Ticketing
- จันทร์-ศุกร์ : 09.00 น. – 18.00 น.
- วันเสาร์ : 09.00 น. – 15.00 น.
- หยุดทุกวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์